ReadyPlanet.com
dot dot
dot
สมาชิก
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
ข้าวเหนียว




ประโยชน์ของข้าวที่ควรรู้ article

ประโยชน์ของข้าวที่ควรรู้

     ข้าว เป็นอาหารหลักของประชากรโลก ประชากรกว่า 50 เปอร์เซ็นต์บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก และประเทศไทยของเรานั้น ก็บริโภคข้าวเป็นอาหารหลักกันมานานแล้ว ปัจจุบันนี้ก็ยังบริโภคข้าวเป็นอาหารหลักอยู่ และที่สำคัญนั้นคือ ข้าว เป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ชีวิตของคนไทยเราในแต่ละวัน  กองโภชนาการ  ได้กำหนดข้อปฏิบัติการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยขึ้น 9 ข้อ หรือที่เรียกว่า "9 ข้อ เพื่อการกินดี มีสุข" และ 1 ใน 9 ข้อ นั้น มีอยู่ 1 ข้อ ที่กำหนดไว้ว่า กินข้าวเป็นอาหารหลักและสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะต้องการให้คนไทยเราได้เห็นความสำคัญของข้าว เพราะปัจจุบันคนไทยเริ่มหันไปรับประทานอาหารอื่นแทนข้าวกันมากขึ้น จึงมีการรณรงค์ให้คนไทยรับประทานข้าวต่อไป
     ข้าว เป็นอาหารหลักของคนทุกชาติทุกภาษาทั่วโลก ซึ่งจะแตกต่างก้นก็เพียงแต่ชนิดของข้าวที่รับประทาน ที่อาจเป็นชนิดที่แปรรูปมาจากข้าวชนิดต่างๆ เช่น ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวสาลี  ข้าวโพด ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธัญพืชประเภทข้าว ในประเทศไทยของเราจัดให้ข้าวอยู่ในอาหารหลักหมู่ที่ 2 ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังมีพวกวิตามินและแร่ธาตุ เป็นแหล่งที่ให้พลังงานและความอบอุ่น ซึ่งจะเห็นได้ว่า คนไทยเรา ก็รับประทานข้าวทุกวันแต่แตกต่างกันที่ชนิดของข้าวเท่านั้นเอง เช่น ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ในภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะนิยมกินข้าวเหนียวมากกว่าข้าวเจ้า ซึ่งก็แล้วแต่ความคุ้นเคย และ วัฒนธรรมของแต่ละท้องที่

     ข้าว ที่เราบริโภคต้องผ่านขั้นตอนการสีเพื่อเอาเปลือกข้าวออก โดยเมล็ดข้าวจะมีวิตามินแร่ธาตุและสารอาหาร ที่สำคัญต่อร่างกายมากกว่า 20 ชนิด แต่ข้าวที่มีสารอาหารดังที่ได้กล่าวมานี้ จะต้อง ผ่านการสีแต่น้อย คือ สีเอาเปลือกข้าวหรือที่เรียกว่า "แกลบ" ออกโดยที่ยังมีจมูกข้าว และเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวที่เราเรียกว่า "รำ" อยู่ ซึ่งจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวนี้มีคุณค่าอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก  ข้าวที่มีคุณค่าอาหารก็คือ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมื้อ ข้าวนึ่งก่อนสี ข้าวเสริมวิตามิน  ข้าวกล้อง หรือที่เรียกว่า ข้าวซ้อมมื้อ (ข้าวแดง) สมัยก่อนชาวบ้านใช้วิธีตำข้าวกินกันเอง  โดยใช้ครกกระเดื่องตำ จึงเรียกว่า “ข้าวซ้อมมื้อ”  ซึ่งปัจจุบันนี้หาดูได้ยากแล้ว จะมีก็แต่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลตัวเมืองอย่างบนพื้นที่สูง  ในสมัยก่อนเราจะสังเกตว่าชาวเขาและชาวบ้านจะมีสุขภาพ พลานามัยดี  ไม่ขาดสารอาหาร  แต่ในปัจจุบัน พบว่า การกินของเราในแต่ละวันนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม จากเมื่อก่อนเคยกินข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ อุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันกินข้าวขาว กินอาหารที่แปรรูปมากขึ้น ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ  อาหารที่มีวางจำหน่ายในร้านค้า หรือร้านสะดวกซื้อ  ก็เป็นอาหารสำเร็จรูปจำพวกขนมปัง แครกเกอร์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต่างๆ มากมาย และขนมใส่สีอีกหลากหลายชนิด อาหารสำเร็จรูปเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยมาก มีแต่แป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ  ซึ่งไม่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อเปรียบเทียบกับการบริโภคของผู้คนสมัยก่อนจะมีประโยชน์มากกว่า  ข้าวกล้อง นั้นมีโปรตีนประมาณ 7-12 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าว การขัดสี ข้าวกล้องจนมีสีขาวจะทำ ให้โปรตีนสูญหายไป  30 เปอร์เซ็นต์ ดูแล้วไม่มาก แต่คนส่วนใหญ่กินข้าวกันวันละ 3 มื้อ และข้าวเป็นอาหารที่เรากินมากที่สุด จึงจำเป็นที่เราควรจะ คำนึงถึงคุณค่าในสิ่งที่เรากินเข้าไป ข้าวขาวที่กินในแต่ละวันนั้นมีสารอาหารน้อยกว่าข้าวกล้อง  ในข้าวกล้องจะมีคุณค่าแร่ธาตุมากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ มีวิตามินบีรวม ซึ่งจะช่วยป้องกัน และบรรเทาอาการอ่อนเพลีย แขน ขา ไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนังบางชนิด บำรุงสมอง
วิตามินบี 1 จะพบได้ใน  ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวนึ่งก่อนสี ข้าวเสริมวิตามิน  จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้
วิตามินบี 2  ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก อาการเป็นแผลที่มุมปาก ทั้งสองข้าง ริมฝีปากบวม ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ตาสู้แสงไม่ได้
ฟอสฟอรัส  ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน
แคลเซียม ช่วยลดอาการเป็นตะคริว
ทองแดง ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
เหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือด
โปรตีน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย แต่เนื่องจากโปรตีนในข้าวเป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ การที่จะกิน ข้าว เพื่อให้ได้คุณค่าของสารอาหารครบถ้วน ควรกินร่วมกับถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ จะทำให้คุณภาพของโปรตีน ในข้าวดีขึ้น เช่น การหุงข้าวโดยใส่ถั่วเขียว ถั่วลิสงหรือถั่วดำ ถั่วแดง ตามความชอบ ถั่วแต่ละชนิดมีคุณค่าแตกต่างกันไป แต่ก่อนจะนำถั่วมานึ่งหรือหุงรวมกับข้าวนั้น ควรล้างและแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ในน้ำธรรมดา ถ้าเป็นน้ำร้อนก็แช่ไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จะช่วยทำให้เอนไซม์บางตัวในถั่วไม่เกิดปฏิกิริยา ป้องกันอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊ซ  ถ้าเรากินข้าวกล้องผสมถั่วได้ เป็นประจำจะทำให้เราได้คุณค่าสารอาหารที่สมบูรณ์ทดแทนเนื้อสัตว์ได้
     นอกจากนี้แล้ว ข้าวกล้อง จะมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย โดยเฉพาะน้ำมันในข้าวกล้อง เป็นน้ำมันที่ไม่มีโคเลสเตอรอล  เพราะถ้ามีมากจะก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย ในข้าวกล้องมี ไนอะซิน เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของผิวหนัง  ลิ้น การทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ รวมถึงการทำงานของระบบประสาท และโรคที่เกิดจากการขาดไนอะซิน โดยจะมีอาการท้องเสีย ความจำเสื่อม ผิวหนังหยาบและอักเสบแดง  นอกจากนี้แล้ว การกินข้าวกล้องจะได้กากอาหารมาก ซึ่งจะทำให้ท้อง ไม่ผูกและยังช่วยป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งในลำไส้ได้อีกด้วย
     ดังนั้น ในการบริโภคข้าว ควรจะได้คำนึงถึงเรื่องคุณค่าทางอาหาร เพื่อสุขภาพของตัวท่านเองตัวท่านเองและคนในครอบครัว  จึงมีข้อกำหนดว่า กินข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ซึ่งในความเป็นจริง แล้วเรากินอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าอาหารจำพวกแป้ง ถ้าเป็นพวกข้าวกล้อง  หัวเผือก หัวมัน ข้าวโพด จะดีกว่า แต่ในปัจจุบันวิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไปมาก จึงอนุโลมให้กินอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ สลับกับข้าวที่เป็นอาหารหลัก เพื่อทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
 



ความรู้เรื่องข้าว

ข้าวกล้องคืออะไร article
ข้าวกล้องหอมนิล article
ข้าวเสาไห้ article
วิธีการหุงข้าวให้สวย article
คุณประโยชน์ของข้าวแต่ละชนิด article
คุณค่าของข้าวเหนียวช่วยบำรุงผิวพรรณ article
ข้าวเหนียวดำ article
ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ article



ร้านเจียมเจริญ ค้าข้าว ตลาดข้าวสารและอุปโภคบริโภค อาคาร2 ล็อกที่2 ,ตลาดไท ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 โทร. 089-891-4386,086-035-9669